“PMU-B witnesses the successful launch of a rocket carrying Thai research payload to the International Space Station (ISS), and visits NASA’s Mission Control and Virtual Astronaut Training Center.”
9/16/20251 min read


เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 ณ Voyager Technologies ที่เมือง Houston มลรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ดร.ณิรวัฒน์ ธรรมจักร์ ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) พร้อมด้วยผู้บริหารและคณะนักวิจัยโครงการ Thailand Liquid Crystals in Space (TLC) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นำโดย ดร.ดำรงค์ ศรีพระราม รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รศ.ดร.ณัฐพร ฉัตรแถม นักวิจัยหัวหน้าโครงการฯ ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาจาก บพค. และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) นำโดย ดร.ดำรงค์ฤทธิ์ เนียมหมวด รองผู้อำนวยการ GISTDA เข้าร่วมการประชุมกับบริษัท Voyager Nanoracks LLC นำโดย Mr. Scott Rodriguez และคณะผู้ให้คำปรึกษาด้านการทดลองในอวกาศแก่นักวิจัยในโครงการ
ต่อมาในวันที่ 12 กันยายน 2568 ทางคณะฯ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) นำโดย ศ.ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการ สกสว. ได้เดินทางมาร่วมหารือกับ Mr. Sean M. Fuller, Gateway Program Manager for International Partners ผู้ที่มีประสบการณ์กว่า 22 ปี ในการนำทีม Human Space Flight ของ NASA และพันธมิตรนานาชาติ ถือว่าเป็นบุคคลสำคัญที่เชื่อมโยงสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) เข้ากับความร่วมมือระดับโลก โดยได้หารือถึงโอกาสที่ประเทศไทยจะมีส่วนร่วมในโครงการ Gateway Program, Artemis ที่จะร่วมภารกิจในการพัฒนาสถานีอวกาศขนาดย่อมที่จะโคจรรอบดวงจันทร์ ซึ่งจะเป็นก้าวถัดไปของการสำรวจอวกาศนอกวงโคจรโลก และได้นำคณะฯ ไปเยี่ยมชมห้องควบคุมสถานีอวกาศของนาซ่าและตำนานของการควบคุมเที่ยวบินอวกาศ ที่เคยเป็นฐานบัญชาการตั้งแต่ภารกิจสำรวจดวงจันทร์ของ Apollo, Space Shuttle จนถึงการปฏิบัติภารกิจของ ISS ในปัจจุบัน จากนั้นได้เข้าเยี่ยมชม Astronaut Training Facilities ณ NASA Johnson Space Center สถานที่สำหรับฝึกอบรมนักบินอวกาศ ซึ่งนักบินอวกาศจะฝึกอบรมภาคทฤษฎีและปฏิบัติในสถานีอวกาศจำลอง ด้วยอุปกรณ์และระบบต่าง ๆ ที่ใช้งานจริง


จากนั้น ในวันที่ 15 กันยายน 2568 ณ แหลมคานาเวอรัล มลรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ดร.ณิรวัฒน์ฯ พร้อมคณะ ได้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีปล่อยยานอวกาศ Cygnus เที่ยวบินที่ NG-23 เดินทางด้วยจรวด Falcon 9 ของบริษัท SpaceX ซึ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เวลา 05.11 น. ตามเวลาในประเทศไทย พร้อมพาเพย์โหลดหรืออุปกรณ์ทดลองวิจัยผลึกเหลว (Liquid Crystals) ภายใต้สภาวะไร้แรงโน้มถ่วง ออกเดินทางไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS)
งานวิจัยนี้ เป็นโครงการวิจัยภายใต้ชื่อ “Thailand Liquid Crystals in Space (TLC)” หรือการทดลองผลึกเหลวภายใต้สภาวะไร้แรงโน้มถ่วง ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนหลักในการสร้างเพย์โหลดเพื่อส่งขึ้นไปทดลองในอวกาศจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) ตั้งแต่ปี 2566 – 2568 ภายใต้กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นำทีมโดย รศ.ดร.ณัฐพร ฉัตรแถม จากภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นหัวหน้าโครงการ ร่วมกับทีมนักวิจัยจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดยร่วมดำเนินการกับองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (NASA) และ U.S. ISS National Laboratory และมีบริษัทที่ปรึกษาทางด้านอวกาศคือ Voyager Space – Nanoracks LLC โดยโครงการมีจุดมุ่งหมายสำคัญคือ การศึกษาผลึกเหลว ในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วง เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีหน้าจอ LCD ที่ก้าวล้ำกว่าที่โลกเคยมีมา เนื่องจากการทดลองในอวกาศจะช่วยลดจุดบกพร่องในผลึกเหลว ทำให้ได้หน้าจอที่คมชัดสูง ตอบสนองเร็ว และใช้พลังงานต่ำ อีกทั้ง NASA ยังเตรียมนำผลลัพธ์ไปต่อยอดกับหมวกนักบินอวกาศ กระจกอัจฉริยะสำหรับรถยนต์ และนำไปใช้กับหน้าต่างของกระสวยอวกาศที่สามารถทนความร้อนและรังสีได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง
บพค. ในฐานะหน่วยงานที่ขับเคลื่อนการพัฒนางานวิจัยและเทคโนโลยีขั้นแนวหน้าภายใต้แผนด้าน ววน. พ.ศ. 2566 - 2570 ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรมระดับขั้นแนวหน้าที่ก้าวหน้าล้ำยุค เพื่อสร้างโอกาสใหม่และความพร้อมของประเทศในอนาคต พร้อมให้การสนับสนุนในการพัฒนาความรู้และการสร้างกำลังคนด้านเทคโนโลยีอวกาศของไทย และผลักดันความร่วมมือระดับนานาชาติ ผ่านแผนงานหลัก F11 (S3P19) พัฒนาเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าล้ำยุคสู่อนาคต รวมถึงเทคโนโลยีระบบโลกและอวกาศ (Earth and Space Technology) เพื่อการประยุกต์ใช้ประโยชน์สำหรับการพัฒนาประเทศด้านภูมิสารสนเทศ และต่อยอดสู่อุตสาหกรรมอวกาศในอนาคต ถือว่าโครงการนี้เป็นก้าวสำคัญสู่ความสำเร็จในภารกิจร่วมกับภาคีนักวิจัยนานาชาติด้านเทคโนโลยีอวกาศชั้นแนวหน้าของโลก และนับเป็นผลงานความภาคภูมิใจของทีมนักวิจัยชาวไทยที่ไม่ใช่เพียงแค่การได้ทดลองวิจัยได้องค์ความรู้ใหม่ แต่เป็นการเปิดประตูแห่งโอกาสให้เกิดการยกระดับสมรรถนะของนักวิจัยคนไทยสู่เวทีโลก
ขอขอบคุณข้อมูลจากเพจ The Quester และ Thailand Liquid Crystals in Space (TLC)
#บพค #PMUB #กองทุนส่งเสริมววน. #กระทรวงอว #MHESI #NASA #ThailandLiquidCrystalsinSpace #TLC #ISS #VoyagerSpace #GISTDA #Falcon9 #มหาวิยาลัยเกษตรศาสตร์